นายจุรินทร์
ลักษณวิศิษฏ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า
ตนได้เสนอคณะรัฐมนตรี
ของบกลาง เพื่อพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน จำนวนเงินทั้งสิ้น
133,133,400 บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศ
โดยเฉพาะการพัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทาง 1669
ซึ่งเป็นจุดเริ่มในการรับแจ้งเหตุจากประชาชนหรือผู้ป่วยฉุกเฉิน
และการสั่งการให้หน่วยปฎิบัติออกให้บริการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน
ของสำนักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินประจำจังหวัด จำนวน 79 แห่ง
หากงบไม่เพียงพอจะส่งผลกระทบต่อผู้เจ็บป่วย
ขาดโอกาสรับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที
อาจเสียชีวิตหรือพิการได้
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
ได้รับงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ.2553 วงเงิน 444.9 ล้านบาท ประกอบด้วย
งบกองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน จำนวน 390.2500 ล้านบาท
สำหรับเป็นค่าชดเชยบริการการแพทย์ฉุกเฉินซึ่งมีปีละ 700,000 ครั้ง โดยคิดเป็นรายละ 8.30 บาท
ต่อประชาชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือเฉลี่ยอัตรา 6.23
บาทต่อประชากรไทยทั้งหมด และเป็นงบบริหารจัดการของสถาบันฯ
จำนวน 54.7167 ล้านบาท
โดยไม่ได้รับจัดสรรในส่วนของการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน
โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนศูนย์รับแจ้งเหตุสั่งการ
ค่าบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินระดับจังหวัด
จึงทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานได้
ทั้งนี้งบกลางที่ขอเพิ่มครั้งนี้
จะใช้ดำเนินงาน 2 ส่วนได้แก่
การสนับสนุนศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการตลอด 24 ชั่วโมง
และสนับสนนุสำนักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินประจำจังหวัด
113,365,400 บาท
ตรวจสอบคุณภาพการจ่ายค่าชดเชยบริการ 12,945,000 บาท
และพัฒนาบุคลากรในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน จำนวน 6,814,000 บาท
ซึ่งหาก ครม.ให้ความเห็นชอบ
ก็จะช่วยให้ศูนย์รับแจ้งเหตุ 1669 และศูนย์รับแจ้งเหตุประจำจังหวัดทุกจังหวัดสามารถรับแจ้งเหตุ
และสั่งการช่วยเหลือผู้ป่วยกรณีฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชั่วโมงในทันที นายจุรินทร์
กล่าว
****************** 13 กุมภาพันธ์
2553